ภาพถ่ายเเสดงภูมิประเทศทางอากาศ |
สภาพภูมิประเทศ ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดปัตตานี แบ่งออกเป็น 3 ลักษณะ คือ
1. บริเวณที่ราบ เป็นที่ราบเรียบ มีความลาดชันน้อยกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ และมีความสูงจากระดับน้ำทะเล
ไม่เกิน 20 เมตร มีเนื้อที่ประมาณ 874,063 ไร่ หรือร้อยละ 72.07 ของเนื้อที่ทั้งจังหวัด ประกอบด้วย
ที่ราบชายฝั่งทะเลและที่ราบลุ่มน้ำ ซึ่งที่ราบชายฝั่งทะเลได้แก่ บริเวณที่เป็นหาดทราย สันทราย ที่ลุ่ม
ระหว่างสันทรายและที่ราบลุ่มน้ำทะเลท่วมถึง ซึ่งอยู่ทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกของจังหวัด
เป็นแนวยาวกว้างขนานไปกับฝั่งทะเล พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนมะพร้าวและป่าชายเลน ส่วนบริเวณตอนกลาง
ของจังหวัดเป็นที่ราบลุ่มน้ำ ที่เกิดจากอิทธิพลของแม่น้ำปัตตานี และแม่น้ำสายบุรี ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันออก
เฉียงใต้ของจังหวัด พื้นที่ส่วนใหญ่ใช้ในการทำนาและสวนผลไม้
2. บริเวณที่เป็นลูกคลื่นถึงเป็นเนินเขา ได้แก่ บริเวณที่อยู่ถัดจากบริเวณที่ราบขึ้นไปถึงเนินเขา
มีความลาดชันอยู่ระหว่าง 2-16 เปอร์เซ็นต์ และสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 20 เมตรขึ้นไปถึง 100 เมตร
ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดและทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ในเขตอำเภอโคกโพธิ์
มีเนื้อที่ประมาณ 210.000 ไร่ หรือร้อยละ 17.33 ของเนื้อที่ ทั้งจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นสวนยางพารา
3. บริเวณที่เป็นภูเขา มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 100 เมตร ขึ้นไป ความลาดชันมากกว่า 35
เปอร์เซ็นต์ ยอดเขาบริเวณทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดในเขตอำเภอโคกโพธิ์ได้แก่ เขาคาราคีรี
(เขาใหญ่) ความสูง 780 เมตร ส่วนบริเวณตอนกลาง ของจังหวัดมีเทือกเขาทอดตัวอยู่ในแนวตะวันตกเฉียงใต้
ขึ้นไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือประกอบด้วย เขาน้ำค้าง (ความสูง 775 เมตร) อยู่ในเขตกิ่งอำเภอกะพ้อ
เขาไหม้ (ความสูง 229 เมตร) เขาเปาะซีเกง (ความสูง 444 เมตร) อยู่ในเขตอำเภอมายอ เขากือลีแย
(ความสูง 360 เมตร) เขาหินม้า (ความสูง 409 เมตร) ในเขตอำเภอสายบุรี และเขาพ่อมิ่ง (ความสูง 477
เมตร) เขามะรวด (ความสูง 325 เมตร) ซึ่งอยู่ในเขตอำเภอปะนาเระ และนอกจากนี้ยังมีเขาโดด ซึ่งกระจาย
อยู่ทั่วไป ซึ่งภูเขาเหล่านี้ยังคงมีสภาพเป็นป่าอยู่ มีเนื้อที่ประมาณ 128.559 ไร่หรือร้อยละ 10.60 ของเนื้อที่
ทั้งจังหวัด
ลักษณะภูมิอากาศ
จังหวัดปัตตานี เป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทะเลตะวันออกของภาคใต้ จึงได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทั้งสองด้าน
คือ ทั้งด้านฝั่งทะเลตะวันตกและฝั่งทะเลตะวันออกแต่จะได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งพัดมาจาก
ประเทศจีนมากกว่าลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดาจากมหาสมุทรอินเดีย ทั้งนี้เพราะว่าในช่วงเวลาที่ลมมรสุม
ตะวันตกเฉียงใต้พัดผ่านซึ่งถือเป็นฤดูฝนของประเทศนั้น จังหวัดปัตตานีจะได้รับอิทธิพลของลมมรสุมนี้แต่เพียง
ปลายลมจึงมีปริมาณฝนตกน้อยกว่าจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางฝั่งทะเลด้านทิศตะวันตก ทั้งนี้เพราะวามีเทือกเขาสันกาลาคีรี
ขวางกั้นไว้สำหรับในช่วงที่ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดผ่านซึ่งถือว่าเป็นลมหนาวเพราะว่าภาคอื่นๆ ของ
ประเทศจะเป็นฤดูหนาว แต่จังหวัดปัตตานีจะมีฝนตกชุกมาก เนื่องจาก ลมมรสุมนี้พัดผ่านอ่าวไทย
นอกจากนี้ จังหวัดปัตตานียังได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ด้วยลมชนิดนี้เป็นลมร้อนและชื้น
ซึ่งพัดมาจากบริเวณความกดอากาศสูงในทะเลจีนใต้ จึงทำให้ช่วงนี้มีฝนตกน้อยกว่าระยะอื่น อุณหภูมิก็จะสูงขึ้น
แต่ไม่มากนักและจังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดที่มีอากาศอบอุ่นตลอดปีไม่ร้อนหรือหนาวเกินไป
ปริมาณน้ำฝน
สถิติภูมิอากาศจังหวัดปัตตานีเฉลี่ย 33 ปี (พ.ศ.2509-2541) พบว่า จังหวัดปัตตานีมีฝนตกเฉลี่ยตลอดปี
1,766.5 ม.ม. โดยมีฝนตกมากที่สุดในเดือนพฤศจิกายน จำนวน 400.2 ม.ม. และฝนตกน้อยที่สุดในเดือน
กุมภาพันธ์ จำนวน 24.0 ม.ม. จำนวน วันฝนตกเฉลี่ยตลอดปี 141.5 วัน นอกจากนี้จากการศึกษายังพบอีกว่า
ปริมาณน้ำฝนที่เป็นประโยชน์เฉลี่ยตลอดปีเท่ากับ 1,138.5 ม.ม.
อุณหภูมิ
จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีเท่ากับ 27 องศาเซลเซียส โดยมีอุณหภูมิสูงสุด
เฉลี่ย 28.1 องศาเซลเซียส ในเดือนเมษายนและพฤษภาคม และอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 25.7 องศาเซลเซียส
ในเดือนธันวาคม ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า อุณหภูมิเฉลี่ยรายเดือนตลอดทั้งปีมีค่าแตกต่างกันน้อยมากประมาณ
2.4 องศาเซลเซียส
ความชื้นสัมพัทธ์
เป็นการศึกษาถึงเปอร์เซ็นต์ของความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณไอน้ำที่มีอยู่จริงในอากาศ กับปริมาณไอน้ำ
ที่อากาศจะมีได้เต็มที่ ณ อุณหภูมิเดียวกัน ซึ่งผลการศึกษาพบว่าความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดปี 80 เปอร์เซ็นต์
ในเดือน พฤศจิกายน และความชื้นสัมพัทธ์ต่ำสุด 77 เปอร์เซ็นต์ ในเดือนมีนาคมและเดือนเมษายน
นอกจากนี้พบว่า ความชื้นสัมพัทธ์และจำนวนวันที่ฝนตกจะมีความสัมพันธโดยตรงกับปริมาณน้ำฝนกล่าวคือ
ถ้าปริมาณน้ำฝนมากค่าความชื้นสัมพัทธ์และจำนวนวันฝนตกจะเพิ่มมากไปด้วยตามสัดส่วน
อ้างจาก sites.google.com/site/websitrupthay/3-laksna-thang-phumisastr
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น